บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
ข่าวบวก/ลบไม่ชัดเจน
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,749 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวแคบ ๆ ระหว่าง 1,747-1,751 USDต่อออนซ์ เนื่องจากเมื่อคืนเป็นช่วงเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐ ตลาดทองคำจึงมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง แต่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา มีกระแสคาดการณ์ว่ากรีซกำลังจะได้รับเงินกู้งวดใหม่โดยฝ่ายที่เคยคัดค้านอย่าง IMF ก็มีท่าทีผ่อนลง ราคาจึงสามารถผ่านระดับ 1,735 ขึ้นไปได้ พร้อมกับเงินยูโรที่แข็งค่าและเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนลง ดังนั้น ประเด็นที่น่าสนใจและจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงต้นสัปดาห์นี้จึงเป็นเรื่องการเจรจาเรื่องหนี้ของกรีซ ว่าจะได้เงื่อนไขการรัดเข็มขัดและเงินช่วยเหลืออย่างไร แต่เนื่องจากราคาทองคำได้พุ่งขึ้นมารับข่าวนี้ไปแล้วราว 20 เหรียญ จึงแนะนำให้ติดตามรายละเอียดว่าจะส่งผลดีต่อกรีซและยูโรโซนแค่ไหน และติดตามราคาทองคำในคืนนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งตลาดสหรัฐจะเปิดทำการเต็มเวลาอีกครั้ง ว่าจะเกิดการขายทำกำไรแบบ sell on fact หรือไม่ หรือ เรื่องกรีซจะถูกเลื่อนออกไปอีก
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศสอยู่ที่ระดับ 84 ในเดือนพ.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนต.ค. ขณะที่คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ 83 ส่วนดัชนีย่อยอื่นๆปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยดัชนีฐานะการเงินส่วนบุคคลในอนาคตขยับขึ้นมาอยู่ที่ -24 ในเดือนพ.ย. จาก -25 ในเดือนที่แล้ว ขณะที่ดัชนีแนวโน้มการใช้จ่ายในเดือนพ.ย.ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ -28 จาก -29 ในเดือนก่อนหน้า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานในอนาคตลดลงจาก 71 ในเดือนต.ค.มาอยู่ที่ 65 ในเดือนพ.ย. ขณะที่เมื่อไม่กี่วันมานี้ นายมิเชล ซาแปง รมว.แรงงานฝรั่งเศสคาดการณ์ว่าข้อมูลการจ้างงานจะย่ำแย่ในหลายเดือนข้างหน้านี้ จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างยากลำบาก
แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นใกล้บรรลุมติในการอนุมัตินโยบายฉุกเฉินวงเงิน 8.8 แสนล้านเยนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ซบเซา ซึ่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือนนั้น คาดว่าจะได้รับการอนุมัติโดยคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะในวันศุกร์ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 16 ธ.ค. โดยรัฐบาลจะระดมเงินสำหรับมาตรการด้านนโยบายดังกล่าว ด้วยเงินทุนสำรองภายใต้งบประมารณปี 2555 และจะไม่ออกตราสารหนี้ล็อตใหม่แต่อย่างใด
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยว่า แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่ระดับ Baa3 ของอินเดีย มีเสถียรภาพ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่อินเดียมีอัตราการออมและการลงทุนในระดับสูง
อัตราการขยายตัวของผลกำไรในบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 20.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 7.8% ส่วนในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.024 แสนล้านหยวน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีน หรือบริษัที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน มีกำไรลดลง 1.8%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
20:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน ต.ค. – เป็นดัขนีชี้นำสภาพเศรษฐกิจล่วงหน้าที่ดีตัวหนึ่ง โดยบ่งบอกได้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต แต่เนื่องจากเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังการผลิต จึงมีความผันผวนสูงจากหลายปัจจัย ดังนั้น จึงควรพิจารณาเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย ทั้งนี้ ยอดที่พุ่งขึ้นเกินคาดมากในคราวก่อนเป็นผลมาจากยอดคำสั่งซื้ออากาศยานที่สูงมาก ซึ่งในคราวนี้คาดว่าจะลดลงมาสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลขในกรอบบวกหรือลบ 1% จะมีผลมากนัก แต่หากต่ำกว่า -1% จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำยืนเหนือระดับ 1,750 ได้
21:00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ เดือน ก.ย. โดย S&P/CS – เป็นดัชนีประเมินสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญ มีความเกี่ยวข้องกับระดับความเชื่อมั่น, ความมั่งคั่ง และการใช้จ่ายของประชาชน โดยวิกฤติซับไพรม์ทำให้ราคาบ้านตกลงเรื่อย ๆ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้ราคาจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม แต่ก็เริ่มทรงตัวได้ โดยคาดว่าอานิสงค์จากมาตรการ QE3 จะช่วยหนุนให้ดัชนีดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จะส่งผลลบต่อราคาทองคำ
22:00 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย เดือน ก.ย. – เป็นระดับราคาซื้อขายโดยเฉลี่ยทั่วประเทศของหนี้จำนองในพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งใช้ประกอบกับดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขต 20 เมืองใหญ่ ของ S&P/CS ได้ แต่เมื่อเทียบกับราคาทองคำแล้ว การประกาศในระดับบวกหรือลบไม่เกิน 1.5% จะไม่มีผลกระทบ
22:00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน พ.ย. – สำรวจความคิดเห็นในปัจจุบันและการคาดการณ์ในอนาคตของครัวเรือนเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ, รายได้, การมีงานทำ, ฯลฯ ทั้งนี้ ปัจจุบัน ดัชนีมีค่าทรงตัวในระดับกลาง ๆ ที่ 60-80 ซึ่งฟื้นขึ้นมาจากวิกฤติซับไพรม์ โดยหากประกาศออกมาใกล้กับที่คาดการณ์ จะส่งผลต่อราคาทองคำเล็กน้อย และหากเกิน 75 จะส่งผลลบต่อราคาทองคำอย่างมาก แต่ถ้าหากต่ำกว่า 70 จะส่งผลบวกอย่างมากแทน
22:00 ดัชนีภาคการผลิต (ริชมอนด์) เดือน พ.ย. – ผลสำรวจความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจของผู้ผลิตในเขตที่เฟดสาขาริชมอนด์ดูแล ซึ่งใช้วัดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่สำคัญในเขตริชมอนด์ แต่ไม่มักส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ
ทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ราคายังไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,755 ราคาแกว่วงตัวในกรอบแคบๆ ชะลอการขึ้น และอาจอ่อนตัวลงเล็กน้อยในระหว่างวันจากแรงขายทำกำไร คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,740/ 1,730 แนวต้านบริเวณ 1,755/1,760 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,730 – 1,760 นักลงทุนระยะสั้นปิดทำกำไรในช่วงราคาปรับขึ้น และรออ่อนตัวค่อยเข้าเปิด Long ใหม่
โลหะเงิน ให้แนวต้านบริเวณ 34.3/34.5 แนวรับบริเวณ 33.8/33.2 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgo...up.tumblr.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น