บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)
แรงกดดันจากการประท้วงใหญ่ของกลุ่ม PIGS วันนี้
ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,728 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวแคบ ๆ ในกรอบ 1,724 - 1,729 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา โดยได้รับปัจจัยลบจากการประท้วงคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดทั่วยุโรปตอนใต้ และการขาดวิธีแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ ทำให้วิกฤติยูโรโซนเริ่มมีความตึงเครียดมากขึ้น และกดดันให้ราคาทองคำขึ้นได้ในกรอบที่จำกัด ขณะที่สหรัฐ พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการแก้ไขวิกฤติการคลังสหรัฐ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ดังนั้น หากสถานการณ์ต่างๆ ข้างต้น ยังไม่ได้รับการแก้ไข การปรับขึ้นของราคาทองคำอาจจะยังอยู่ในกรอบจำกัด ทั้งนี้ จับตาดูกรอบ 1,720 – 1,732 หาก ราคาหลุดกรอบด้านใดด้านหนึ่งจะแสดงทิศทางขึ้น/ลง ในระยะถัดไป โดยการปรับลดลงต่ำกว่า 1,720 จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,712/1,705 ขณะที่ การทะลุแนวต้าน 1,732 จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,745/1,755
ประชาชนและสหภาพแรงงานในกลุ่มประเทศ PIGS ซึ่งประกอบด้วย โปรตุเกส, อิตาลี, กรีซ และสเปน เตรียมชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลในแต่ละประเทศกำลังดำเนินการ ทั้งนี้ กลุ่มคนงานชาวสเปนและโปรตุเกสจะผละงานประท้วงร่วมกันเป็นครั้งแรกทั่วคาบสมุทรไอบีเรียในวันนี้ ซึ่งจะทำให้ระบบขนส่ง, เที่ยวบินหยุดให้บริการ และโรงเรียนปิดทำการ เพื่อประท้วงคัดค้านมาตรการลดรายจ่ายของรัฐและการขึ้นภาษี ขณะเดียวกัน สหภาพในกรีซ และอิตาลีก็มีแผนจะผละงานและชุมนุมประท้วงในวัน European Day of Action and Solidarity เพื่อคัดค้านนโยบายรัดเข็มขัดเช่นกัน ซึ่งผู้นำสหภาพระบุว่ามีสาเหตุมาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อและเลวร้ายลงของยูโรโซน
อินเดีย เปิดเผยเงินเฟ้อเดือนต.ค.อ่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน แม้อินเดียต้องเผชิญกับต้นทุนด้านเชื้อเพลิงดีเซลที่สูงขึ้น ขณะที่การขยายตัวซบเซา ทั้งนี้ ดัชนีราคาค้าส่งเพิ่มขึ้น 7.45% จากระดับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 7.81% ในเดือนก.ย. โดยรัฐบาลอินเดียได้เพิ่มภาษีน้ำมันดีเซลอีกประมาณ 14% เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการให้เงินอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงที่ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสูงขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางอินเดียคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะขยายตัวเร็วขึ้นในไตรมาสนี้ ภายหลังจากที่มีการดำเนินการดังกล่าว พร้อมกับส่งสัญญาณว่า อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่แรงกดดันด้านราคาลดลงอย่างมาก
รายได้ทางการคลังของจีนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 13.7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.0444 ล้านล้านหยวน โดยอัตราการขยายตัวสูงกว่าเดือนก.ย.ที่ 11.9% รายได้ทางการคลังของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 8.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.119 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการลดลงติดต่อกัน 2 เดือน เนื่องจากการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นว่ามาจากเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพและตัวเลขฐานที่ระดับต่ำในปีที่แล้ว จากเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ ทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีของจีนเพิ่มขึ้น 12.5% จากปีก่อน สู่ระดับ 9.382 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนก.ย. สำหรับในเดือนก.ย.รายได้จากการเก็บภาษีของจีนอยู่ที่ 6.784 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเพียง 5.8%
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ ของญี่ปุ่นส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการยุบสภาผู้แทนราษฎรแบบมีเงื่อนไขในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ หากพรรคแอลดีพี ซึ่งเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านให้คำสัญญาในเรื่องต่างๆ รวมถึงการปฏิรูประบบเลือกตั้ง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่
- 20.30 ยอดค้าปลีก(ไม่รวมยานพาหนะ) เดือน ต.ค.
- 20.30 ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน ต.ค.
- 22:00 ยอดสต๊อคสินค้า ภาคธุรกิจ เดือน ก.ย.
- 02:00 รายงานบันทึกการประชุมของ FOMC วันที่ 23-24 ต.ค.
โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศในคืนนี้จะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงิน US dollar อ่อนค่าลง แต่เป็นผลดีต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ยอดสต๊อคสินค้า ภาคธุรกิจ เดือน ก.ย. ที่คาดการณ์กันว่าจะปรับตัวลดลงจากระดับ +0.6% มาอยู่ที่ +0.5% อาจเป็นผลกดดันต่อราคาทองคำ เนื่องจากว่า ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลง ส่งผลให้อาจมีการใช้จ่ายในระบบที่มากขึ้น เป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ และอาจหนุนให้ค่าเงิน US dollar แข็งค่าขึ้น แต่ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลังรายเดือนในระดับ 0-1% เป็นเรื่องปกติที่แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาลด้วย ดังนั้น หากคืนนี้ประกาศออกมาในช่วงดังกล่าว ก็อาจทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย
ราคาทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคราคาแกว่งตัว side way ออกทางด้านข้างอยู่ในกรอบ 1,720 – 1,732 โดยการหลุดแนวรับ 1,720 จะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,712/1,705 ถ้าแนวรับดังกล่าวรับไม่อยู่จะกลับเป็นขาลงในระยะสั้นได้อีก ส่วนการทะลุผ่าน 1,732 จะส่งสัญญาณ bullish และมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,745/1,755 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,712 – 1,745 นักลงทุนที่เปิด Long ไว้มีจุด Stop Loss บริเวณ 1,700
โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 32.0/31.6 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.8/33.0 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน
อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น