วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 มกราคม 2556 (ช่วงเย็น)


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 8 มกราคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,651 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวแคบ ๆ ในกรอบ 1,647–1,652 USDต่อออนซ์ โดยในช่วง 2 วันนี้ 
ตลาดทองคำขาดปัจจัยกำหนดแนวโน้ม ทำให้ราคาแกว่งตัวผันผวนอย่างไร้ทิศทาง ในขณะที่นักลงทุนบางส่วนลดการถือครองทองคำลงหลังจากที่ราคาร่วงลงต่อ
เนื่องนับตั้งแต่เปิดตลาดเดือนนี้ อย่างไรก็ตามมุมมองในระยะยาวต่อความต้องการทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงช่วยหนุนให้ราคาทรงตัวเหนือระดับ 
1,600 USDต่อออนซ์ แต่ความไม่แน่นอนของปัจจัยในระยะสั้นทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,700 USDต่อออนซ์ 
ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันที่ 10 ม.ค. ถึงประเด็นมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจและการแก้ไขปัญหาวิกฤติในปีนี้ 
และจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐ(FOMC) ในวันที่ 29-30 ม.ค. ในประเด็นความเห็นต่อการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
(QE) เนื่องจากการประชุมครั้งล่าสุดมีการประกาศใช้เงินเพิ่มอีก 4 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน เพื่อเสริมมาตรการสว๊อปพันธบัตร(QE3) 
แต่ในบันทึกการประชุมกลับมีความเห็นที่ขัดแย้งกันว่าจะให้ลดปริมาณการทำ QE หรือ ยกเลิกภายในสิ้นปีนี้ 

ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่และบริษัทที่ให้บริการด้านเงินกู้จำนองของสหรัฐ รวม 10 แห่ง ตกลงจะจ่าย 8.5 พันล้านดอลลาร์ ให้กับกลุ่มผู้กู้ 
เพื่อยุติคดีความกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง ในเรื่องที่สถาบันการเงินเหล่านี้ทำการยึดที่อยู่อาศัยของผู้กู้อย่างไม่เหมาะสม

ยอดการส่งออกของเยอรมนีในเดือน พ.ย. ลดลง 3.4% จากเดือนต.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี 
เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบต่อความต้องการในภูมิภาค ทั้งนี้ เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้า 1.46 หมื่นล้านยูโร ลดลงจาก 1.49 หมื่นล้านยูโร ในเดือนต.ค.

นักเศรษฐศาสตร์จีนระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2556 จะมีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มที่ดีกว่าปี 2555 ที่ระดับ 8-8.5% 
ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ดังนั้น จีนจึงควรจะเร่งการปฏิรูปเศรษฐกิจ การตลาด ระบบความมั่นคงทางสังคม และการกระจายรายได้ 
นอกจากนี้ รายได้ครัวเรือนและการบริโภคภายในประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้จีนจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8% ในอีก 20 ปีข้างหน้า

ญี่ปุ่นเล็งใช้มาตรการฉุกเฉินกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 20 ล้านล้านเยน หรือ 2.28 แสนล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลได้จัดทำงบประมาณพิเศษ 
13.1 ล้านล้านเยน แล้วในปีงบประมาณนี้

รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความต้องการข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรกับธนาคารกลาง(BOJ) ในเรื่องเป้าหมายด้านนโยบายที่ธนาคารกลางควรจะ
ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศจากปัญหาเงินฝืดเรื้อรังและเงินเยนที่แข็งค่า ทั้งนี้ ข้อตกลงจะประกอบไปด้วยนโยบายการสร้างเสถียรภาพ
การจ้างงานและเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ต่อปี

ยอดส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลง 40% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตของชาติตะวันตกที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค.55 
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(OPEC) และทบวงพลังงานระหว่างประเทศ(IEA) ระบุว่า การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลดลงจากราว 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน 
ในปลายปี 2554 เหลือเพียง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อสิ้นปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน  ฮามิด คาร์ไซ มีกำหนดเยือนสหรัฐเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเข้าหารือกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา 
เกี่ยวกับการถอนกำลังทหารของสหรัฐในอัฟกานิสถานภายในปี 2014 และจะขอให้สหรัฐสนับสนุนด้านอาวุธและการแพทย์แก่ทหารอัฟกัน

อาการป่วยของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ฮูโก ชาเวซ ยังคงทรงตัว แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 4 ในวันที่ 10 ม.ค.นี้ได้ เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากปอดติดเชื้อระหว่างรักษาโรคมะเร็งในประเทศคิวบา ขณะเดียวกัน กลุ่มฝ่ายค้านได้ออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ใน 30 วัน 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
22:00 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ม.ค. โดย IBD/TIPP  –  เป็นผลสำรวจข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนจำนวนหนึ่งในแง่ของ
การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในอีกครึ่งปีข้างหน้า รวมทั้งประเมินสถานะทางการเงินของตนเองด้วย ซึ่งดัขนีดังกล่าวมีการเปิดเผยค่อนข้างรวดเร็ว 
จึงได้ข้อมูลปัจจุบันที่แสดงถึงความมั่นใจของประชาชนต่อเศรษฐกิจและการเมืองภายในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ปัญหา fiscal cliff ที่เคยเป็นกังวลในการสำรวจ
เดือน ธ.ค. ได้รับการแก้ไขแล้วบางส่วน ทำให้ตัวเลขคาดการณ์ในคืนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่อาจไม่มีผลต่อราคาทองคำ ในขณะที่ถ้าหากตัวเลขอยู่ในช่วง 50-55 
จะกดดันราคาทองคำพอสมควร

03:00 ยอดสินเชื่อรายย่อย เดือน พ.ย.  –  เป็นดัชนีชี้วัดระดับความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจของผู้บริโภคและสถาบันการเงิน 
โดยยอดสินเชื่อที่สูงขึ้นจะแสดงถึงความมั่นใจของประชาชนที่จะจับจ่ายใช้สอย และสถาบันการเงินพร้อมจะปล่อยสินเชื่อ แต่ตัวเลขดังกล่าวไม่มีผล

  ทองคำ ราคากำลังทรงตัวในบริเวณ neckline ของ inverted head & shoulder เดิมที่เบรคขึ้นมาเมื่อคืนวันศุกร์ โดยสัญญาณ rsi 
ในกราฟราย 60 นาที เตือนว่าราคาอาจเลือกทิศทางขึ้นหรือลงได้ในคืนนี้ แต่การแกว่งตัวจะไม่แรงมาก จึงแนะนำชะลอการเข้าเก็งกำไร 
และรอเปิดสถานะเพิ่มเติมที่บริเวณแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ โดยคาดการณ์แนวรับที่บริเวณ 1,645/1,635 และแนวต้านที่บริเวณ 1,660/1,675

  โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 29.55/29.2 ส่วนแนวต้านบริเวณ 30.5/30.95 แนะนำ trading ในกรอบ 29.0-31.0

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น