วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันศุกร์ ที่ 4 มกราคม 2556 ช่วงเย็น


บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันศุกร์ ที่ 4 มกราคม 2556 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) 

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,651 USDต่อออนซ์  เคลื่อนไหวในกรอบ 1,638 – 1,654 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลงแรง ตามค่าเงินยูโร และราคาน้ำมัน 
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ก่อนเวลา เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินและขนาดของงบดุล 
โดยราคาทองคำลงไปทำ Low สุดที่บริเวณ 1,638 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ ทั้งนี้ หากหลุดบริเวณดังกล่าว จะมีแนวโน้มเชิงลบที่มากขึ้น ขณะที่ นักลงทุนต่างจับตาดู 
การประกาศรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งหากออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจกดดันต่อราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม 
มีสัญญาณบวกชั่วคราวเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.ที่แสดงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน อาจเป็นแรงหนุนให้ราคาทองคำมีการชะลอการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม 
จับตาดูแนวรับสำคัญบริเวณ 1,637/1,635 หากยังสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าว อาจหนุนให้ราคารทองคำ Rebound กลับขึ้นไปในช่วงสั้น 
แต่การหลุดแนวรับดังกล่าว อาจกดดันให้ราคาทองคำลงไปทดสอบบริเวณ 1,625/1,612 ในระยะถัดไป

มีสัญญาณชั่วคราวเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.ที่แสดงว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจผ่านพ้นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาใน
การฟื้นตัวอีกหลายเดือน ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในยูโรโซนของ Markit ซึ่งประเมิน กิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทหลายพันแห่ง เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 47.2 
ในเดือนธ.ค. จากระดับ 46.5 ในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนี PMI ทั่วไปถูกทบทวนปรับลดลงเล็กน้อยจาก 47.3 ที่รายงานไปในเบื้องต้น โดยดัชนี PMI 
เดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว กิจกรรมธุรกิจฟื้นตัวขึ้นในบรรดาบริษัท
ด้านการบริการ ซึ่งมีสัดส่วนจำนวนมากในภาคเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ธนาคารไปจนถึงร้านอาหาร แต่กลุ่มผู้ผลิตประสบกับความยากลำบากในปีที่แล้ว

ภาคบริการของฝรั่งเศสในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงแตะ 45.2 จาก 45.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวลงรุนแรงขึ้น โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 
บ่งชี้ว่าธุรกิจภาคบริการหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า สำหรับดัชนี PMI รวมทั้งภาคการผลิตและบริการในเดือนธ.ค.ของฝรั่งเศส 
เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 44.6 จาก 44.3 ในเดือนพ.ย. โดยถึงแม้กิจกรรมในภาคธุรกิจของฝรั่งเศสจะยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ก็เป็นการหดตัวในอัตราที่ช้าลง 
ซึ่งเป็นเพราะว่าได้รับแรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 ในเดือนธ.ค. จาก 49.2 ในเดือนพ.ย. 
ซึ่งดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคธุรกิจเขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งปี ทั้งนี้ ดัชนี PMI 
ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้นแตะ 52.0 จาก 49.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งช่วยชดเชยการหดตัวของดัชนี PMI 
ภาคการผลิตเยอรมนีที่มาร์กิตเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดย PMI ภาคการผลิตลดลงแตะ 46.0 ในเดือนธ.ค. จาก 46.8 ในเดือนพ.ย.

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอิตาลีในเดือนธ.ค.ขยับขึ้นแตะ 45.6 จาก 44.6 ในเดือนพ.ย. แต่ดัชนีที่ต่ำกว่า 50 
บ่งชี้ว่าธุรกิจบริการยังคงเผชิญกับภาวะหดตัว ซึ่งดัชนี PMI ภาคบริการของอิตาลีได้หดตัวลงต่อเนื่องมากว่า 1 ปีครึ่งแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มจะเป็นปัจจัยที่ฉุดเศรษฐกิจ
ของประเทศต่อไปอีกหลายเดือน โดยข้อมูลในวันนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนี PMI ภาคการผลิตที่มาร์กิตเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ดัชนีเดือนธ.ค.
เพิ่มขึ้นแตะ 46.7 จาก 45.1 ในเดือนพ.ย. แต่ก็ยังอย่ในภาวะหดตัว

เยอรมนี ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.2555 เพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนต.ค.ที่หดตัวลง 1.3% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% 
แต่หากเทียบกับเดือนต.ค.ปี 2554 ยอดค้าปลีกของเยอรมนีลดลง 0.9% ซึ่งคาดว่ายอดค้าปลีกตลอดปี 2555 จะต่ำกว่าปี 2554 อยู่ 0.1-0.3%

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม  ได้แก่
20:30 ยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ธ.ค. ---  ข้อมูลการจ้างงานใหม่รายเดือนที่รวบรวมทั้งจากภาครัฐและเอกชนครอบคคลุมทั่ว
ประเทศ แต่ไม่ได้นับรวมการจ้างงานจากภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยสถิติดังกล่าวเป็นดัชนีชี้วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ 
แต่มีจุดอ่อนอยู่ที่การเก็บข้อมูล ทำให้ตัวเลขค่อนข้างผันผวนได้ง่ายจากหลายปัจจัย ทั้งนี้ ตัวเลขที่สูงขึ้นจะกดดันต่อราคาทองคำ

20:30 อัตราการว่างงาน เดือน ธ.ค. เดือน ก.ย. --- ตัวเลขออกมาต่ำกว่าระดับ 8% ซึ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 
แต่หากตัวเลขประกาศออกมาสูงกว่าเดิม จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ขณะที่หากประกาศออกมาต่ำกว่าเดิม จะส่งผลให้ราคาทองคำชะลอตัว


22:00 ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต เดือน ธ.ค. โดย ISM นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขดัชนีนี้จะปรับลดลงเล็กน้อย 
แต่ยังอยู่ในภาวะทรงตัว แต่หากปรับลดลงมาแรงกว่าคาด อาจเป็นผลลบต่อค่าเงิน US dollar และทำให้ทองดีดตัวกลับขึ้นมาได้

22:00 ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน เดือน พ.ย. --- สำรวจมูลค่าการผลิตและการหมุนเวียนสินค้าของผู้ผลิตภายในสหรัฐ เป็นข้อมูลที่มักใช้ควบคู่
ไปกับยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เพื่อคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในอนาคต แต่เนื่องจากยอดที่ประกาศค่อนข้างผันผวน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัจจัยฤดูกาลเป็นส่วนใหญ่ 
จึงมีผลต่อราคาทองคำไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม การที่ตัวเลขประกาศลดลงกว่าระดับเดิม อาจเป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น 

23:00 ยอดสต๊อคน้ำมัน รายสัปดาห์ --- ราคาทองคำจะค่อนข้างเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมันในระยะยาว แต่ในระยะสั้นอาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่ม/ลดลงกว่าที่คาดการณ์มาก อาจมีผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยการปรับลดลงของตัวเลขดังกล่าว อาจเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (7-11 ม.ค.) มีดังนี้: วันจันทร์  ดัชนีการจ้างงานเดือนธ.ค.  
วันอังคาร ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ  วันพุธ  ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์  วันพฤหัสบดี   จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์  
ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนพ.ย. วันศุกร์   ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย.  ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค.  งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค.

ประเด็นที่ต้องติดตาม  แนวโน้มที่เฟดอาจยุติการใช้มาตรการ QE  และประเด็นที่รมว.คลังของอินเดียอาจร้องขอให้ธนาคารกลางอินเดียควบคุม
การนำเข้าทองคำเพื่อไม่ให้มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น

ทองคำ ภาพกราฟในรายวัน ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญลงมาหลายระดับ หลังจากไม่ผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,695 ส่งผลให้ยังเป็นทิศทางขาลง
ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริเวณแนวรับสำคัญ 1,635 ยังเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และอาจหนุนให้ราคาทองคำสามารถ rebound กลับขึ้นมาในช่วงสั้น 
โดยคาดว่าวันนี้มีแนวรับที่บริเวณ  1,635 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,660/1,665 แนะนำ สะสม Long บริเวณ 1,635/1,625 – สำหรับสัปดาห์หน้า 
ทิศทางขาลงยังไม่จบ หากราคายังไม่สามารถทำ High ใหม่ที่สูงกว่าเดิม และการหลุดแนวรับบริเวณ 1,635 อาจกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงได้อีก 10 – 20 
เหรียญ โดยกรอบสัปดาห์หน้า คาดว่าจะอยู่ที่บริเวณ 1,612 – 1,690  

  โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 29.0 / 28.4 ส่วนแนวต้านบริเวณ 30.0/ 30.4 แนะนำ Trading ในกรอบ 28.4 – 30.4


อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgf
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
http://itunes.apple....d464234361?mt=8 
https://plus.google.com/114919553661509313835/posts
https://market.android.com/details?id=com.codemobiles.classicgold 
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น