วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ ซิลเวอร์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)


ยังขึ้นได้อีก แต่ระวังการขึ้น

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,734 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวระหว่าง 1,730 - 1,738 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจาก
ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ดีเกินคาดของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.6% ในเดือนต.ค. และ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.7%
อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่ออิหร่านยิงใส่เครื่องบินลาดตระเวนของสหรัฐ ทำให้โอกาสการขึ้นของราคาทองคำยังไปได้ต่อ และทั้งนี้ หากแนวโน้มการให้ความช่วยเหลือของกรีซชัดเจนมากขึ้น
ในการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่จะมีขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า ก็คงเป็นอีกแรงหนุนให้ราคาทองคำขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า แต่หากผลการประชุมไม่ได้มีสัญญาณการให้ความช่วยเหลือใดๆ อาจทำให้สถานการณ์ในกรีซมีปัญหามากขึ้น
เพราะปลายสัปดาห์หน้า กรีซมีแนวโน้มจะหมดเงินสดในการใช้จ่าย ดังนั้น ผลการประชุมยูโรโซนในสัปดาห์หน้าจึงเป็นที่น่าจับตา สำหรับภาพทางเทคนิค สัญญาณดูดีขึ้นหลังจากราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่เนื่องจากราคาเริ่มเข้าใกล้โซน overbought แล้ว
ดังนั้น อาจพบแรงขายทำกำไรเป็นระยะตามแนวต้านแต่ละระดับ

การผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสในเดือนก.ย.ร่วงลง 2.7% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งแสดงถึงการหดตัวลงอย่างมาก ส่วนผลผลิตในภาคการผลิต ซึ่งไม่รวมภาคก่อสร้าง ก็ร่วงลง 3.2% จากเดือนส.ค. ขณะที่ภาคก่อสร้างในเดือนก.ย.หดตัวลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนีในเดือนต.ค.ทรงตัวจากเดือนก.ย. และขยายตัว 2.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากการประเมินเบื้องต้น หากไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนี CPI เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 1.6% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ ราคาพลังงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันดัชนี CPI เดือนต.ค. ขณะที่ราคาสินค้าที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งรวมถึงอาหารและเสื้อผ้า ก็ปรับตัวขึ้นด้วย
กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในไตรมาส 4 และไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่บริษัทต่างๆชะลอการลงทุนเนื่องจากวิกฤติยูโรโซน โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดในฤดูหนาว และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจยังคงมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ เราเพียงคาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวในช่วงสั้นๆ ทั้งนี้ คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในไตรมาส 2 และ 0.5% ในไตรมาสแรก
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากรายได้และสถานการณ์การจ้างงานที่ซบเซาลง ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิก 2 คนหรือมากกว่า ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 39.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 40.1 ของเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน สำนักงานคณะรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงการประเมินความเชื่อมั่นผู้บริโภคเอาไว้ในระดับเดิมว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภค "ยังคงอ่อนแอ"
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่

- 20.30 ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค.
- 21.55 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.
- 22.00 ข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.

ตัวเลขเศรษฐกิจในคือวันนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้มีนัยสำคัญต่อราคาทองคำมาก แต่หากตัวเลขใดดีขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ จะส่งผลบวกต่อค่าเงิน US dollar และเป็นผลลบต่อราคาทองคำได้

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า (12-16 พ.ย.) มีดังนี้: วันจันทร์ หน่วยงานรัฐบาลและตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก
แต่ตลาดหุ้นเปิดทำการตามปกติ วันอังคาร งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนต.ค. วันพุธ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.
ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 23-24 ต.ค. วันพฤหัสบดี ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
เดือนต.ค. ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ย.
ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันศุกร์ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนก.ย. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนต.ค.

ราคาทองคำ ภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ราคายังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ ถ้าผ่าน แนวต้านบริเวณ 1,740 แล้วมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,755 อย่างไรก็ตาม ราคามีโอกาสแกว่งตัวผันผวนได้สูง โ
ดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,700 หากหลุดมีโอกาสลงมาที่บริเวณ 1,690/1,670 ส่วนในวันนี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ 1,710 – 1,755 โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,740/1,755 แนวรับบริเวณ 1,720/1,710
แนะนำ Trading ในกรอบ 1,710 – 1,755 --- สำหรับสัปดาห์หน้า หากราคาทองคำตั้งฐานเหนือ 1,700 อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,700 – 1,770 แต่หากหลุดแนวรับ 1,700
ราคาจะมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 1,630 – 1,750

โลหะเงิน ให้แนวรับบริเวณ 31.8/31.3 โดยมีแนวต้านบริเวณ 32.7/33.0 แนะนำนักลงทุน Trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 11-12,16
สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,
http://www.classicgoldfutures.co.th
http://www.classicgold.co.th
http://www.chiabsengheng.co.th
http://www.facebook....lassicGoldGroup
http://www.youtube.com/ilovecgfg
http://www.twitter.com/ilovecgf
http://classicgoldfutures.blogspot.com
https://plus.google....509313835/posts
https://market.andro...les.classicgold
http://web.stagram.com/n/ilovecgf/
http://www.classicgoldgroup.tumblr.com 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น